มานีโคทักพักมุลกวัน (Manikeo dalg bagmulgwan, 마니커 닭 박물관) เป็นพิพิธภัณฑ์ที่เปิดโอกาสให้คุณ ได้สำรวจวัฒนธรรม และความหมายเชิงสัญลักษณ์ ที่เกี่ยวข้องกับไก่ ซึ่งไม่ใช่เป็นเพียงแค่ ส่วนประกอบของอาหารเท่านั้น โดยจัดแสดงงานฝีมือ, เครื่องประดับ, ภาพเขียน และสิ่งประดิษฐ์ในชีวิตประจำวัน ซึ่งแน่นอน ทุกอย่างล้วนแต่เป็นเรื่องของไก่ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ ตั้งอยู่ถัดจาก โรงงานและบริษัทแปรรูปเนื้อไก่ มานีคอดงทงดูชอน (Maniker Dongducheon Factory, 마니커 동두천공장) ในย่านฮาบงอัมดง (Habongam-dong) ของเมืองทงดูชอน (Dongducheon-si, 동두천시) ในจังหวัดคยองกี (คยองกีโด, Gyeonggi-do) ของประเทศเกาหลีใต้ นอกเหนือจากพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการแล้ว คุณยังสามารถผ่อนคลายไปกับ คาเฟ่กาแฟ และร้านอาหาร รวมไปถึงมีสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง สำหรับเด็กๆ อีกด้วย
ในปี ค.ศ. 2010 ได้มีการสร้างพิพิธภัณฑ์ศิลปะไก่แห่งแรก ซึ่งอยู่ในบริเวณของ หมู่บ้านบุกชนฮันอก (Bukchon Hanok Village) อันเป็นหมู่บ้านวัฒนธรรม และสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมอีกแห่ง ของกรุงโซล (Seoul) ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อว่า พิพิธภัณฑ์ศิลปะไก่โซล (Seoul Museum of Chicken Art, 마니커 닭 박물관) ต่อมาในปี ค.ศ. 2012 ได้ย้ายพิพิธภัณฑ์มายัง ที่ตั้งในปัจจุบัน และเปลี่ยนชื่อเรียกใหม่ว่า พิพิธภัณฑ์ศิลปะไก่มานีคอ (Maniker Museum of Chicken Art, 마니커 닭 박물관) ซึ่งจัดแสดงนิทรรศการถาวร เกี่ยวกับเรื่องราวของไก่ ผ่านสิ่งประดิษฐ์และภาพวาด ที่รวบรวมมาจากทั้งในประเทศ และต่างประเทศกว่า 3,600 รายการ
คุณสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับไก่จากทั่วโลก ซึ่งมีลักษณะของรูปร่าง และสีสันที่สวยงาม ที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ เช่น เกาหลี, อเมริกา, ญี่ปุ่น, โปรตุเกส, เยอรมัน เป็นต้น เรียกว่ามาครบทุกทวีป ทั้งในเอเชีย, ยุโรป, แอฟริกา และอเมริกา ซึ่งผลงานด้านศิลปะรูปไก่ที่หลากหลาย ได้บ่งบอกความหมายเชิงสัญลักษณ์ ที่แตกต่างกันไปในแต่ละวัฒนธรรม ของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พิพิธภัณฑ์มีห้องจัดแสดง ไก่โมคูโด (Mokudo Chicken) และรวบรวมงานแกะสลักไม้รูปไก่ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบใน ประเพณีหามศพของเกาหลี เนื่องจากไก่ถูกมองว่า เป็นผู้ส่งสารระหว่าง สวรรค์กับโลกระหว่าง และระหว่างโลกนี้กับโลกหน้า
ในสมัยโบราณ จนถึงปี ค.ศ. 1980 ในการเคลื่อนศพผู้ตายไปยังสุสาน จะใช้คานหามไม้ที่เรียกว่า ชังยอ (Bier, 상여) ซึ่งมีขนาดแตกต่างกันไป ตามแต่ละประเพณีของพื้นที่นั้นๆ ซึ่งต้องใข้คนหาม อย่างน้อยสิบหกถึงสามสิบสองคน คานหามไม้ที่เรียกว่า ชังยอ (Bier, 상여) จะถูกประดับประดาโดยรอบไปด้วย “คกดู (Kkogdu, 꼭두)” ซึ่งเป็นงานแกะสลักไม้เป็นรูปร่างต่างๆ ได้แก่ คน, สัตว์, พืช, สิ่งของ และสิ่งอื่นๆ ในจินตนาการ ที่ขนาดความสูง 20 – 30 เซนติมเมตร และตกแต่งด้วยสีสันสดใสสวยงาม เพื่อปลอบประโลม และปกป้องวิญญาณของคนตาย
ผลงานแกะสลักที่บอกเล่าเรื่องราว ของความเศร้าโศกเสียใจ และความอาลัยรักต่อผู้ตาย ซึ่งแสดงออกทางสีหน้าท่าทาง ที่แตกต่างกันไป ตามบทบาทหน้าที่ของแต่ละบุคคล เช่น ญาตพี่น้อง ซึ่งมีท่าทางบ่งบอกถึงความกังวลและความอาลัย, คนรับใช้ที่นำทางคนตายด้วยความสบาย หรือนักรบที่ปกป้องคนตายด้วยความมุ่งมั่น เป็นต้น ผลงานเหล่านี้ถือเป็น มรดกทางวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ตามความเชื่อของคนเฒ่าผู้แก่ว่า วิญญาณของคนตายสามารถไปถึงจุดสิ้นสุดของโลกได้อย่างปลอดภัย หากจะเปรียบว่า “คกดู (Kkogdu, 꼭두)” เป็นเสมือนสะพาน ที่เชื่อมระหว่างความจริงกับความฝันก็ว่าได้
ที่อยู่ 127 Habongam-dong, Dongducheon, Gyeonggi-do, South Korea (경기도 동두천시 하봉암동 127)
ข้อมูลเพิ่มเติม
สายด่วนการท่องเที่ยว 1330: + 82-2-1330 (เกาหลี, อังกฤษ, ญี่ปุ่น, จีน, รัสเซีย, เวียดนาม, ไทย, มาเลย์)
ติดต่อสอบถาม +82 31-867-1100
เวลาทำการ 10:00 น. ถึง 18:00 น.
*ปิดทำการในวันจันทร์ และวันหยุดราชการ
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 4,000 วอน และเด็ก 2,000 วอน
การเดินทาง
Soyosan Station (소요산역, โซโยซานหยอก, Seoul Subway Line 1) และออกทางออกที่ 1
จากนั้นข้ามถนนไปยังป้ายจอดรถประจำทางฝั่งตรงข้าม เพื่อไปขึ้นรถบัส Bus No. 39, 39-2, 53, 53-5 หรือ 53-12 (13 นาที, 6 ป้ายจอด) และลงที่ป้ายจอดรถประจำทาง มานีค่อชองรยูจังฮาชา (Manikeo Jeonglyujang hacha, 마니커 정류장 하차; Get off at the Maniker stop) *พิพิธภัณฑ์อยู่ฝั่งตรงข้ามของถนน
by Google Map